วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556


โครงงานบรูณาการเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง เมี่ยงคำเมืองตาก


ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

                เนื่องจากเมี่ยงคำเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตากและเป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดตาก ซึ่งในปัจจุบัน ผู้คนนิยมรับประทานอาหารพื้นเมืองลดลงเป็นจำนวนมาก ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงทำโครงงานฉบับนี้เพื่อสร้างความนิยมในการรับประทานอาหารพื้นเมืองให้แก่ชาวจังหวัดตาก ชาวต่าง และได้เผยแพร่เกี่ยวกับเมี่ยงคำเมืองตากเพื่อเป็นการอนุรักษ์เมี่ยงคำให้อยู่กับจังหวัดตากไปอีกนาน

จุดประสงค์
1.             เพื่อให้ชาวจังหวัดตาก ได้ทราบกรรมวิธีในการทำเมี่ยงคำ
2.             เพื่อเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติ ได้ทราบถึงอาหารพื้นเมืองของจังหวัดตาก

3.             เพื่อให้ทราบเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรในการทำเมี่ยงคำ
4.             เพื่อสร้างความนิยมให้แก่อาหารพื้นเมืองของจังหวัดตาก


ประโยชน์ที่ได้รับ
1.             ได้ทราบกรรมวิธีในการทำเมี่ยงคำ
2.             ชาวต่างชาติทราบว่าเมี่ยงคำเป็นอย่างไร
3.             ได้ทราบสรรพคุณของสมุนไพร
4.             เมี่ยงคำเป็นที่นิยมมากขึ้น

วัสดุและอุปกรณ์
                1.ข้าวเกรียบ                                                          7.มะนาว                                              
                2.ตะไคร้                                                                8.กระเทียม
                3.กุ้งแห้ง                                                               9.แคบหมู
                4.พริกขี้หนู                                                           10.ใบชะพลู
5.ถั่งลิสง                                                               11.ข้าวทอด
6.มะพร้าว                                                             12.เต้าเจี้ยว

วิธีดำเนินการ
                1.กำหนดหัวข้อเรื่อง
                2.วางแผนการทำงาน
                3.รวบรวมข้อมูล
                4.ลงมือปฏิบัติ
                5.สรุปผลและนำเสนอข้อมูล

Summarize
Wrapped in leaves with salted soy beans.  It’s a snack of  Tak  people.  It’s an intellect from the people in the pass. They use herbs mix  together on the piper sarmentosum roxb or on the crisp ivory rice which iswet. And make them small shape like a krathong which is suitable for eating. You should pour with salted soy beans for good. It’s also good for health too.

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีล้างหน้าที่สาวๆ ควรหัดให้ชินเป็นนิสัยจ้า~!

วิธีรักษาสิวอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน ด้วยตนเอง


       สิวเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลายๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่นด้วยแล้ว สิวสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ที่มีทั้งสิวเสี้ยน สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวหัวช้าง หรือสิวเรื้อรัง ขยายลุกลามเหวอะหวะกลายเป็นรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดขึ้นได้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมรักษา แต่จากนี้ไป ถ้าคุณมองตัวเองในกระจกและเห็นสิวบนใบหน้า คุณจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป!! ข่าวดีคือ มีหลายวิธีดีๆ และคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองเพื่อกำจัดสิว วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีการรักษาสิวได้อย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืนมาฝากค่ะ เป็นเคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยให้คุณรักษาสิวทั้งหมดได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ หรืออาจจะภายในช่วง 2-3 วัน ก็เป็นไปได้ ในบทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่สองสิ่งที่สำคัญคือ เคล็ดวิธีการรักษาสิวด้วยตนเองและการดูแลผิวเบื้องต้นที่คุณควรปฏิบัติทุกวัน


วิธีการกำจัดสิวแบบเร่งด่วน
แต่เมื่อมีความจำเป็นที่คุณต้องการกำจัดสิวให้หายไปในเพียงชั่วข้ามคืน ลองใช้วิธีการต่อไปนี้เพื่อการกำจัดสิวได้อย่างรวดเร็ว

1 ยาสีฟัน 
ในตัวยาสีฟันจะมีสารไทรโคลซาน (triclosan) มีคุณสมบัติเป็นสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว โดยเริ่มจากล้างหน้าก่อนนอนและเช็ดให้แห้ง(เบาๆ) ใช้ยาสีฟันสีขาวแต้มที่สิว หลังจากนั้น 30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด
ข้อแนะนำคือ ใช้เป็นแบบครีมตัวยาสีฟัน ไม่ควรใช้เป็นแบบเจลยาสีฟัน เพราะมักจะมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถทำให้ผิวของคุณระคายเคืองได้

2 แพ็คน้ำแข็ง 
โดยนำก้อนน้ำแข็งไปห่อในผ้าขนหนูนุ่ม แล้วนำไปวางบนสิวของคุณ มันจะช่วยลดการอักเสบบวมและอาการคันได้นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งในบริเวณอื่นๆของใบหน้าที่ไม่ได้เป็นสิว เพราะมันจะทำให้ผิวแห้ง

3 น้ำมะนาว 
ใช้น้ำมะนาวแต้มที่สิวก่อนเข้านอน ในน้ำมะนาวประกอบด้วยวิตามินซี ซึ่งทำหน้าที่เป็นยาสมานแผล มันมีประสิทธิภาพช่วยในการทำให้สิวของคุณแห้ง นอกจากนี้ การดื่มน้ำมะนาวยังเป็นการทำดีท็อกซ์จะช่วยขจัดสารพิษที่สะสมในร่างกายด้วยนะค่ะ

4 เบรคกิ้งโซดา 
เบรคกิ้งโซดา ก็คือ ผงฟูหรือโซเดียมไบคาร์บอเนตนั่นเอง ที่จะช่วยควบคุมระดับ pH ของผิว คุณสามารถใช้ผงฟูเพื่อผลัดผิวหน้าของคุณ โดยการนำผงฟูผสมกับน้ำ จากนั้นนำไปแต้มสิวบริเวณที่ติดเชื้อเท่านั้น และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทิ้งไว้นานเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวที่บอบบาง โดยผงฟูมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและยังช่วยกำจัดรอยแผลเป็นจากสิวได้ด้วยนะค่ะ

5 ใช้อบเชยผสมน้ำผึ้ง 
น้ำผึ้งเป็นยาประจำบ้านที่ดีในการรักษาสิว มันช่วยให้ผิวของคุณสามารถเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ น้ำผึ้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นและช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว โดยเรานำน้ำผึ้งแต้มที่สิวที่มีการติดเชื้อและทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรืออีกวิธีคือ นำน้ำผึ้งมาผสมกับอบเชย จากนั้นพอกให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากกลัวเปื้อนที่นอนสามารถใช้ผ้าบางรองไว้บนหมอน

6 มากส์หน้าด้วยไข่ขาว 
ล้างหน้าและเช็ดหน้าของคุณให้สะอาด จากนั้นตอกไข่และแยกไข่แดงออก เพื่อแยกเอาเฉพาะไข่ขาว จากนั้นทาไข่ขาวบาง ๆ บนใบหน้าที่สะอาดและปล่อยให้แห้งประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเช่นนี้สัปดาห์ละครั้ง แล้วคุณจะเห็นถึงความแตกต่างว่า ผิวของคุณกระชับขึ้น 

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กิจกรรมประจำหน่วยที่2

กิจกรรมประจำหน่วยที่2 เรื่อง หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

1.กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ตอบ กระบวนการจัดการข้อมูลจนกลายเป็นสารสนเทศ ประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล การประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศและความรู้ที่นำมาใช้ในการตัดสินใจและการเผยแพร่สารสนเทศ

2.จงให้คำนิยามของสิ่งต่อไปนี้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง
     1)ข้อมูล
     2)สารสนเทศ
     3)ความรู้
ตอบ 1)ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริง 2)สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว 3)ความรู้ คือ ความเข้าใจในสาระสำคัญ สัมพันธ์กัน คือ ข้อมูลเมื่อผ่านกระประมวลผลแล้วจะกลายเป็นสารสนเทศ และก่อนที่จะนำสารสนเทศไปใช้ เราต้องเอาไปผ่านการสังเคราะห์เพื่อให้กลายเป็นความรู้ก่อนเพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.จงยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของนักเรียนเองว่า ความรู้ช่วยในการตัดสินใจได้อย่างไร
ตอบ การตัดสินใจเลือกซื้อดินสอเปลี่ยนไส้กับดินสอกด ดินสอเปลี่ยนไส้ราคา 6 บาท ดินสอกดราคา 19 บาท ถ้าซื้อดินสอกดต้องซื้อไส้ดินสอมาอีก 15 บาท แต่ถ้าดินสอเปลี่ยนไส้หมดก็ซื้อแท่งใหม่ 6 บาทหรือไม่ก็ไปซื้อไส้มาเปลี่ยน ถูกกว่า จึงเลือกซื้อดินสอเปลี่ยนไส้ดีกว่าดินสอกด

4.การเก็บรักษาข้อมูลและสารสนเทศมีวิธีอย่างไร และเก็บไว้เพื่อประโยชน์อะไร
ตอบ นำมารวบรวมและประมวลผลเป็นสถิติ เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหรือสำรุด และจะได้มีข้อมูลสำรอง

5.การเผยแพร่สารสนเทศมีวัตถุประสงค์อย่างไร และต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
ตอบ เพื่อการนำสารสนเทศไปใช้ประโยชน์ เช่น ราชการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น กระทรวงพลังงานเผยแพร่เกี่ยวกับราคาน้ำมัน ต้องนึกถึง วัถตุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย การเลือกใช้สื่อ และรูปแบบ และประเด็นทางกฏหมาย และความรับผิดของผู้เผยแพร่ข่าวสาร

6.จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เมื่อนักเรียนพบปัญหา ตามปกตินักเรียนจะหาคำตอบให้แก่ปัญหานั้นด้วยวิธีใดบ้าง จงบอกมา 3 วิธี พร้อมทั้งบอกว่าแต่ละวิธีมีข้อดุข้อเสียอย่างไร
ตอบ 1.ถามผู้มีประสบการณ์ ข้อดี ได้ข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ตรง ข้อเสีย อาจไม่มีคนมีปนะสบการณ์ตรงในปัญหาที่เราประสบ
2.ลองผิดลองถูกจนกว่าจะพบคำตอบ ข้อดี ได้ลองทำหลายวิธี หลายครั้ง จนเกิดความชำนาญ ข้อเสีย กว่าจะจนคำตอบก็เสียเวลาไปมาก
 3.แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ข้อดี การแก้ปัญหามีระบบระเบียบ ข้อเสีย หากหาวิธีการแก้ปัญหายังไม่เหมาะสมก็ต้องกลับไปพิจารณาใหม่ และใช้เวลานานไม่ใช่ทำวันเดียวเสร็จ

7.ปัญหาง่ายๆในชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบหรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ ไม่ เพราะ เป็นปัญหาง่ายๆไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เพราะเนื่องจากใช้เวลานานในการพิจารณา ไม่ใช่ทำวันเดียวเสร็จ

8.การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไร จงอธิบาย และมีประโยน์อย่างไร
ตอบ มี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1.วิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาประเด็นสำคัญ  ให้เรียงลำดับความสำคัญไว้ จากมากไปน้อย
2.หาแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับแต่ละประเด็น เริ่มจากประเด็นแรกก่อน
3.กำหนดรายละเอียดในการแก้ปัญหา
4.พิจารณารายละเอียดแนวทางการแก้ปัญหาว่าเหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่ให้กลับไปขั้นตอนที่ 2 แล้วพิจราณาแนาวทางสำรอง
5.พิจารณามาตรฐานการแก้ปัญหาว่าเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอให้กลับไปข้อ 1 ถ้าพอให้รวบรวมมาตรฐานทั้งหมดแล้วจบการทำงาน
ประโยชน์ คือ การแก้ปัญหาของเราจะเป็นระบบระเบียบและมีทางเลือกในการแก้ปัญหาเยอะ

9.จงยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการแก้ปัญหาที่นักเรียนได้พบเห็นมาโดยเล่าเรื่องราวพอสังเขปและวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ โปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยทบต้น เคยพบเมื่อตอนไปเข้าค่ายโครงงานคณิตศาสตร์ เป็นโปรแกรมที่รุ่นพี่ม.5 ที่ไปร่วมเข้าค่ายด้วยเป็นคนสร้างโปรแกรมขึ้นเพื่อคำนวณหาดอกเบี้ยทบต้น เป็นการแก้ปัญหาที่เหมาะสม เพราะโปรแกรมมีความสามารถมาก สามารถคำนวณได้จริงในเวลารวดเร็ว


วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เข้าค่ายลูกเสือ ม.2

เข้าค่ายลูกเสือ ม.2
โรงเรียนตากพิทยาคม

ในวันที่ 24 ได้เดินทางไกลจาก โรงเรียนบ้านห้วยนึ่งไปถึงค่ายตชด.(ค่ายพระเจ้าตาก) เหนื่อยมากๆ และต้องออกกำลังกาย และฝึกระเบียบแถว และกลับไปกางเต้นท์สร้างที่พัก กว่าจะได้อาบน้ำก็ถึงตอนเย็น เหนียวตัวมากๆ ได้ทำอาหารทานเองด้วย
วันที่ 25 ได้เข้าฐานต่างๆ โหดมากๆ มีทั้ง บันไดสูง ลวดหนาม กระโดดหอ ทรงตัว และอื่นๆ ในช่วงกลางคืนมีกิจกรรมรอบกองไฟ กอง1 แสดงเรื่อง บ้านทรายทองเดอะมิวสิคคอล สนุกมากได้เเต้นฟลาวเวอร์ พาวเวอร์ด้วย อิอิ
วันืั้ 26 สบายหน่อยตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว ไปเข้ากองปิดค่าย ได้ร้องเพลง และกลับบ้าน :]
ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านและครูฝึกทุกคนที่ได้ให้โอกาสมาค่ายลูกเวือนี้และได้ให้ความรู้ต่างๆมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

MV "I Got A Boy" สร้างสถิติใหม่เป็น MV เคป๊อปที่มียอดเข้าชมถึง 10 ล้านครั้งเร็วที่สุด !


 
MV "I Got A Boy" ของสาวๆโซนยอชิแดทำลายสถิติยอดเข้าชม 10 ล้านครั้งเร็วที่สุดในบรรดา MV เคป๊อปทั้งหมดในยูทูบโดยใช้เวลาเพียง 55 ชั่วโมงเท่านั้นหลังจากถูกปล่อยออกมา
 
โดยสถิติเดิมนั้นเป็น MV "Ice Cream" ของฮยุนอา ซึ่งทำยอดเข้าชม 10 ล้านครั้งในเวลา 87 ชั่วโมง ตามมาด้วย MV "The Boys" ของสาวๆโซนยอชิแดซึ่งใช้เวลา 110 ชั่วโมง
 
หลังจากต้องรอคอยเป็นเวลาถึง 14 เดือนเต็มตั้งแต่อัลบั้มที่แล้วของพวกเธอทำให้เพลง "I Got A Boy" เป็นที่ถูกจับตาอย่างมากซึ่งทำให้ใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งของ "The Boy" เท่านั้นในการทำยอดเข้าชมได้ 10 ล้านครั้ง โดยเพลงนี้ได้สร้างกระแสความนิยมขึ้นมาเพราะความดิบ,ความมีสีสัน, ท่าเต้นที่ถูกออกแบบโดยคู่ดูโอ้นักออกแบบระดับรางวัลเอ็มมี่ อวอร์ด "Nappytabs" และตัวเพลงที่ทำให้คนฟังเหมือนขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา
 
โซยอนชิแดกำลังเดินสายโปรโมทเพลง "I Got A Boy" โดยจะขึ้นทำการแสดง "I Got A Boy" และ "Dancing Queen" ในรายการ KBS’s “Music Bank” ในวันที่ 4 มกราคม เวลา 4 โมงเย็น (ตามเวลาประเทศไทย) 
 
 


Sources: SMTOWN@YouTube.com, 4minuteofficial@YouTube.com, SMTOWN@YouTube.com 2
Written by: MoonSoshi9@soshified
Edited by: moonrise31@soshified
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
 

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์



1. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส (bus topology)
          โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส จะประกอบด้วย สายส่งข้อมูลหลัก ที่ใช้ส่งข้อมูลภายในเครือข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง จะเชื่อมต่อเข้ากับสายข้อมูลผ่านจุดเชื่อมต่อ เมื่อมีการส่งข้อมูลระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์หลายเครื่องพร้อมกัน จะมีสัญญาณข้อมูลส่งไปบนสายเคเบิ้ล และมีการแบ่งเวลาการใช้สายเคเบิ้ล แต่ละเครื่อง ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบบัส คือ ใช้สื่อนำข้อมูลน้อย ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และถ้าเครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงาน ของระบบโดยรวม แต่มีข้อเสีย คือ การตรวจจุดที่มีปัญหา กระทำได้ค่อนข้างยาก และถ้ามีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ ในเครือข่ายมากเกินไป จะมีการส่งข้อมูลชนกันมากจนเป็นปัญหา
2. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology)
        โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน มีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยที่แต่ละ การเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นวงกลม การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายนี้ก็จะเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ทิศทางการส่งข้อมูล จะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทางในกรณีที่มีเครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งขัดข้อง การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายชนิดนี้จะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ข้อดี ของโครงสร้าง เครือข่ายแบบวงแหวนคือ ใช้สายเคเบิ้ลน้อย และถ้าตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียออกจากระบบ ก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบเครือข่ายนี้ และจะไม่มีการชนกันของข้อมูลที่แต่ละเครื่องส่ง

3. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว (Star topology)
          คือ จะมีไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องศูนย์กลางแม่ข่าย ไมโครคอมพิวเตอร์ที่เหลือและอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ทั้งหมดจะเชื่อมต่อไปยังเครื่องแม่ข่ายโดยมีฮับ (HUB) เป็นอุปกรณ์คอยจัดการรับส่งข่าวสารจากเครื่องหนึ่งๆไปสู่เครื่องอื่นๆ สายสื่อสารจะเชื่อมต่อจากไมโครคอมพิวเตอร์เข้าสู่ฮับแยกไปแต่ละเครื่อง สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์จะถูกส่งผ่านจากเครื่องหนึ่งผ่านฮับไปยังเครื่องปลายทาง ฮับจะคอยตรวจสอบลำดับการจราจรที่วิ่งไปมาในเครือข่าย

4. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบผสม (Hybrid topology)
          คือ เป็นเครือข่ายที่ผสมผสานกันทั้งแบบดาว,วงแหวน และบัส เช่น วิทยาเขตขนาดเล็กที่มีหลายอาคาร เครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใช้แบบบัสเชื่อมต่อกับอาคารอื่นๆที่ใช้แบบดาว และแบบวงแหวน

ที่มาข้อมูล : http://reg.ksu.ac.th
http://www.sathukit.com